ทำไมถึงต้องสร้างรายได้ออนไลน์

คงอาจจะสงสัยว่า งานออนไลน์คืออะไร ทำไมต้องหารายได้ออนไลน์ เราจึงควรมาทำความเข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อยเพื่อปรับระบบความคิด และพิจารณาว่าตัวเราเองนั้นเหมาะที่จะหารายได้ออนไลน์ในรูปแบบไหน

ผมได้สะดุดกับคำๆหนึ่ง ที่ส่งผลให้ผมต้องเข้ามาศึกษาการสร้างรายได้ออนไลน์มากขึ้นคือคำว่า “Make Money While You Sleep” ซึ่งหมายถึง “การสร้างรายได้แม้กระทั่งคุณยังนอนหลับ”  คำนี้หลายๆคนอาจจะตีความไปได้หลายรูปแบบ บางคนอาจจะคิดไปถึง การลงทุนในหน่วยลงทุนที่มีการปันผล ซึ่งเงินปันผลก็คือผลประกอบการ ที่เราจะได้รับ (หรือที่เรียกกันว่าให้เงินทำงาน) บางคนอาจจะนึกไปถึงการหารายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น เช่าคอนโด เช่ารถ เช่าบ้าน ซึ่งค่าเช่าก็เป็น Passive income กลับมา

แต่สำหรับผมแล้วนึกไปถึงการสร้างรายได้ผ่านออนไลน์  แล้วการทำงานออนไลน์มีความแตกต่างจากธุรกิจอื่นอย่างไร จุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจนคือเรื่องการลงทุน ถ้าเราจะลงทุนในหุ้นหรือหน่วยลงทุนต่างๆ สิ่งที่เราต้องหามาก็คือเงินลงทุน และต้องมีจำนวนที่มากพอถึงจะมีการปันผลให้ถึงจุดที่เราสามารถดำเนินชวิตโดยมีการใช้จ่ายตามปกติ หรือถ้าจะทำธุรกิจทรัพย์สินให้เช่า เราก็ต้องมีเงินลงทุนในการซื้อทรัพย์สินนั้นๆ จะเห็นได้ว่า จำนวนเงินลงทุนจะต้องมีมากพอสมควร

แล้วเราจะทำอย่างไรจึงจะสร้างรายได้ที่ลงทุนต่ำๆ ธุรกิจออนไลน์สามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างลงตัว ซึ่งอาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ได้เคยกล่าวไว้ว่า การลงทุนธุรกิจออนไลน์ เป็นการลงทุนที่ต่ำที่สุดและสามารถทำกำไรได้อย่างมากด้วย การลงทุนเกี่ยวกับการสร้างรายได้ออนไลน์สามารถลงทุนอย่างมากไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี ย้ำนะครับว่าต่อปี ไม่ใช่ต่อเดือน ที่เหลือเป็นความมุ่งมั่นของตัวเราเองล้วนๆ และจุดเด่นของงานออนไลน์ก็คือสามารถทำงานได้ทุกหนแห่ง ในที่ที่มีระบบอินเตอร์เน็ต จะดีหรือไม่ที่เราจะมีรายได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่เราเดินทางท่องเที่ยวหรือพักผ่อนกับครอบครัว

???????????????????????????????????????

ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง? เมื่อเราจะสร้างรายได้ออนไลน์สิ่งแรก เราจะต้องมีเว็บไซต์ หรือบล็อก ซึ่งการลงทุนในการเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือบล็อกนั้นจะประกอบด้วยการเช่าโดเมนเนม (Domain name) และการเช่า Host server ค่าเช่าโดเมนเนมประมาณ 500 บาทต่อปี และการเช่า Host server ถ้าเอาแบบดีๆเลยก็อยู่ที่ราคาประมาณ 2,000 – 2,500 บาทต่อปี รวมกันก็ประมาณ 3,000 บาทต่อปี บางคนใช้ทุนที่ต่ำกว่านี้อีกนะครับ แต่ผมคำนวณแบบราคาสูงๆไว้ก่อน ลองพิจารณานะครับ เงินทุนในการลงทุนมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง 3,000 บาทต่อปี เราจะกล้าลงทุนหรือไม่ ถ้าคิดว่าแพงเกินไป ผมก็ขอบอกว่าคุณไม่เหมาะที่จะสร้างรายได้ออนไลน์แล้วครับ ให้ลองไปศึกษาการสร้างรายได้อย่างอื่นแทนดีกว่า

มีการลงทุนอะไรอีกหรือไม่ ? ผมขอตอบว่ามี นั่นก็คือการลงทุนด้านความรู้ ลองพิจารณาว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้หรือไม่ เราอาจจะหาความรู้บนอินเตอร์เน็ตก็ได้ซึ่งจะเป็นการลงทุนด้านเวลา หรือจะลงทุนหาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติมซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่าย และเมื่อเรามีบล็อกในการทำงาน เราจะเริ่มมีไอเดีย และปรับปรุงไปเรื่อยๆเองครับ แล้วจะรู้เองว่าเราควรลงทุนอะไรและอย่างไรเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ขอยืนยันว่าการลงทุนมีบล็อกการตลาดของตนเองนั้นเป็นการที่ลงทุนต่ำที่สุดและสามารถสร้างรายได้อย่างมากให้เราแน่นอน  นอกเหนือจากเงินลงทุนแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือ การลงทุนในตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านเวลาและความอดทน มันอาจจะใช้เวลานานแรมเดือนแรมปี กว่าที่จะสร้างรายได้ให้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับคนที่ยังทำงานประจำ มันเป็นโอกาสอันดีที่สุด เพราะเราจะยังมีรายได้จากงานประจำ และใช้เวลาว่างในการทำบล็อกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราไม่เครียดจนเกินไปเพราะช่วงแรกๆ เราอาจจะยังมองไม่เห็นถึงรายได้ ขอให้เราทำด้วยความรักและความสนใจ เดี๋ยวรายได้จะมาเอง และมีบล็อกเกอร์หลายๆท่านที่ประสบความสำเร็จ ก็ผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งนั้น

 

ข้อดีของการสร้างรายได้ออนไลน์ มีอะไรบ้าง?

1. มีอิสระทางความคิด เราจะสามารถสร้างสรรค์ไอเดีย ได้อย่างอิสระ

2. มีอิสระภาพทางเวลา เมื่อเราสร้างรายได้ทางออนไลน์ เราไม่จำเป็นต้องจำกัดกรอบเวลาในการสร้างสรรค์ผลงาน เราจะมีเวลาทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เราจะทำตอนไหนๆก็ได้ ที่เราต้องการของให้มีระบบอินเตอร์เน็ต

3. อิสระภาพด้านรายได้ เพราะไม่มีเพดานจำกัดรายได้ ถ้าเป็นพนักงานประจำ เป็นไปได้ยากถ้าจะมีเงินเดือนสูงๆ แต่รายได้ทางออนไลน์จะจ่ายผลตอบแทนตามผลงาน ถ้าเราผลงานดีรายได้จะดีตามไปด้วย

4. เป็นการพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เพราะงานด้านออนไลน์ เราต้องศึกษาข้อมูลทั้งทางด้านการตลาด การเงิน การลงทุน และอีกมากมาย

5. สามารถพัฒนาเป็น Passive income ได้ในอนาคต เพราะเมื่อมีระบบ รายได้ก็จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

 

การสร้างรายได้ออนไลน์มีอะไรบ้าง?

ผมจะแบ่งประเภทที่เด่นชัดสำหรับผู้เริ่มต้นมีดังนี้

1. การสร้างรายได้ในรูปแบบนายหน้าหรือตัวแทน (Affiliate Marketing)

2. การสร้างรายได้จากแบนเนอร์โฆษณา เช่น Google Adsense เป็นต้น

3. การสร้างรายได้แบบ Physical product เช่น การขายสินค้าบน Amazon.com, Ebay.com และการทำ E-Commerce เป็นต้น

4. การจำหน่ายสินค้าประเภทบริการ เช่นรับจ้างแปลเอกสาร รับจ้างเขียนบทความ เป็นต้น

5. การจำหน่าย Information product เช่น คอร์สการอบรมผ่านออนไลน์, การจำหน่าย E-book เป็นต้น

จากทั้ง 5 ประเภท จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ผมจะขอแนะนำสำหรับมือใหม่หัดขับที่จะเริ่มต้นทำรายได้ออนไลน์ ให้เริ่มต้นจาก 2 ข้อแรก เพราะว่าเป็นการลงทุนที่ต่ำที่สุด โดยเราเองสามารถที่จะสร้างบทความ (Content) ในสิ่งที่เราสนใจหรือชื่นชอบ ได้อย่างต่อเนื่อง จนเกิดจำนวนผู้เข้าชมอย่างต่อเนื่อง ( Traffic) จากนั้นจะมีรายได้เข้ามาเองครับ

ส่วนการสร้างรายได้ข้ออื่นๆ จะเกิดขึ้นเองตามมาเมื่อเรามีความชำนาญเพิ่มขึ้น ขอให้อดทนยิ่งถ้ายังทำงานประจำอยู่แล้ว ยิ่งเหมาะที่จะเรียนรู้และลงมือทำ เพราะไม่เครียดเรื่องรายได้ และจะสนุกกับสิ่งที่ได้ทำ แต่ก็จะเป็นดาบ 2 คมคือ เมื่อมีรายได้จากงานประจำ อาจจะส่งผลทำให้เราเองเฉื่อยชาจนเกินไป ขอให้มุ่งมั่นมองจุดหมายปลายทางข้างหน้าไว้ อย่าให้ความเฉื่อยมาครอบงำ แล้วบทความต่อไปผมจะมาแชร์ประสบการณ์จากผู้ประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้ออนไลน์ให้อ่านกัน ว่าเขาเหล่านั้นมีทัศนะคติความคิดอย่างไร ถึงประสบความสำเร็จ แล้วเราจะเริ่มต้นเดินทางไปด้วยกัน

ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จครับ